บริจาคยังไงไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
การบริจาคส่วนใหญ่แล้วจะเกี่ยวข้องกับภาษีมูลค่าเพิ่ม เพราะภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บจากการขายสินค้า และกฎหมายกำหนดให้ทรัพย์สินทุกอย่างไม่ว่าจะมีไว้เพื่อการใด ถือเป็น .สินค้า (มาตรา 77/1 (9) แห่งประมวลรัษฎากร) และ การ ขาย ก็คือ การจำหน่าย จ่าย โอนสินค้า (มาตรา 77/1 (8) แห่งประมวลรัษฎากร) ดังนั้น การบริจาคซึ่งเป็นการโอนอย่างหนึ่ง จึงถือเป็นการขายที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
มาดูกันว่าบริจาคอะไร ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ในที่นี้การบริจาค สินค้า เช่น อาหาร เสื้อผ้า ปากกา ยาสีฟัน กาแฟ ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเนื่องจากถือเป็นการขายสินค้าอย่างหนึ่ง และท่านจะต้องเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หมายถึง บุคคลที่ขายสินค้าให้บริการในทางธุรกิจเป็นผู้บริจาคสินค้า หากท่านไม่ได้เป็นผู้ขายสินค้าให้บริการในทางธุรกิจ ท่านก็ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มแต่อย่างใด
ในกรณีที่ท่านเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม กฎหมายกำหนดทางเลือกในการบริจาคสินค้า กรณีไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ 2 กรณี ได้แก่
- ผู้ประกอบการบริจาคสินค้าแล้วจะได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อบริจาคให้แก่
- สถานพยาบาลและสถานศึกษาของทางราชการ
- องค์การหรือสถานสาธารณกุศลหรือสถานพยาบาลและสถานศึกษาอื่น ตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ทั้งนี้ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดสามารถดูรายชื่อได้ตามประกาศกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นรายชื่อองค์กรเช่นเดียวกับที่บุคคลธรรมดาได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้ (มาตรา 3 (4) แห่งพระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 239) พ.ศ.2534)
- ผู้ประกอบการบริจาคสินค้าและไม่ต้องนำมูลค่าของสินค้าที่บริจาคมารวมเป็นมูลค่าของฐานภาษี (ไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่มต้องเสีย) ได้แก่
- การบริจาคทรัพย์สินหรือสินค้าซึ่งผู้ประกอบการจดทะเบียนบริจาคให้แก่ส่วนราชการตามโครงการของทางราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย วาตภัย อัคคีภัย หรือภัยธรรมชาติในลักษณะทำนองเดียวกัน
- การบริจาคทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการ ซึ่งผู้ประกอบการจดทะเบียนบริจาคให้แก่ส่วนราชการตามโครงการของทางราชการ ให้แก่สถานศึกษาของทางราชการ สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ตามกฎหมายว่าด้วยสถานศึกษาเอกชน หรือสถานศึกษา ตามกฎหมายว่าด้วยรงเรียนเอกชน ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 40)
ที่มา : กรมสรรพากร