การประมาณการกำไรสุทธิ คือ อะไร
การประมาณการผลประกอบกิจการในรอบระยะเวลาบัญชีนั้นๆ ก่อนสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีโดยผู้เสียภาษีอากรมีหน้าที่จัดทำประมาณการกำไรสุทธิต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 และชำระภาษีเงินได้ครึ่งปีจากประมาณการกำไรสุทธิที่ได้คาดการณ์ไว้
เหตุผลที่ต้องประมาณการกำไรสุทธิ
1. เพื่ออำนวยให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลกับภาษีเงินได้บคคลธรรมดา
2. เพื่อเป็นการบรรเทาภาระภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ตอ้งจ่ายปีละครั้งลงกึ่งหนึ่ง
• ก่อนปี 2523 ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บเพียงรอบระยะเวลาบัญชีละหนึ่งครั้ง
3. เพื่อส่งเสริมความสมัครใจในการเสียภาษี
4. เพื่อให้รัฐจัดเก็บรายได้ภาษีเงินได้นิติบุคคลได้รวดเร็วขึ้น
ผู้มีหน้าที่ประมาณการกำไรสุทธิ
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิมีดังนี้
1.บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ไม่ว่าจะประกอบกิจการประเภทใดหรือ ณ ที่ใด
2.บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศและเข้ามาประกอบกิจการในไทย ในกิจการที่มิใช่การขนส่งระหว่างประเทศ
3.กิจการที่ดำเนินเป็นทางการค้าหรือหากำไรโดยรัฐบาลต่างประเทศองค์การของรัฐบาลต่างประเทศหรือนิติบุคคลอื่นที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศและเข้ามาประกอบกิจการในไทยในกิจการอื่นใดที่มิใช่การขนส่งระหว่างประเทศ
4.กิจการร่วมค้า
ผู้เสียภาษีอาการต้องยื่นแบบอย่างไร
มาตรา 67 ทวิ ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลยื่นรายการตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดพร้อมทั้งชำระภาษีภายใน 2 เดือน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาหกเดือน นับแต่วันแรกของระยะเวลาบัญชี ดังนี้
1.ในกรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลให้จัดทำประมาณการกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ ซึ่งได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่ได้กระทำ หรือจะได้กระทำในรอบระยะเวลาบัญชีนั้นและให้คำนวณและชำระภาษีจากจำนวนกึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น
***ภาษีที่ชำระดังกล่าวให้ถือเป็นเครดิตในการคำนวณภาษีที่ต้องชำระตาม ม.68